ระบบทำความเย็นเป็นระบบหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ ทางการแพทย์และอาหาร เช่น Freezer-dryer ทางด้านอุตสาหกรรม เช่น Chiller และ Heat-pump เป็นต้น โดยระบบเหล่านี้จะมีการบรรจุสารทำความเย็นเข้าไปภายในระบบเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนความร้อนกับอากาศเพื่อทำให้อากาศเย็นลงหรือเป็นการผลิตความร้อน ดังรูปที่ 1

โดยแอร์นั้นจะมีตัวคอยด์ที่เชื่อมต่อกับคอมเพรสเซอร์ (Compressor) ซึ่งน้ำยาแอร์จะไหลผ่านและแลกเปลี่ยนความร้อนกันภายในระบบ คอยด์จะแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ คือ คอยด์ร้อน (Condenser) และคอยด์เย็น (Evaporation) [1]
คอยด์เย็นจะอยู่ขั้นทำให้สารกลายเป็นไอ คือ Evaporation โดยจะแลกเปลี่ยนความร้อนกับอากาศภายในห้องทำให้อากาศเย็นขึ้น โดยสารทำความเย็นเหล่านี้จะดูดซับความร้อนเอาไว้และกายเป็นไอในที่สุด หลังจากนั้น Compressor จะเป็นตัวอัดไอที่เกิดจากการระเหยในขั้น Evaporation และส่งต่อไปยัง Condenser
คอยด์ร้อนจะอยู่ขั้นทำให้สารกลายเป็นของเหลว คือ Condenser โดยจะนำไอที่โดนอัดจากขั้น Compressor ทำการคายความร้อนผ่านตัวคอยด์ออกมา และควบแน่นให้กลายเป็นของเหลว เพื่อนำไปขยายตัวในขั้น Expansion ต่อไป
การทำให้แอร์หรือระบบหล่อเย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพส่วนหนึ่งมาจากการเลือกสารทำความเย็นให้เหมาะสม เช่น อุณหภูมิต่ำ ไม่ระเบิด ไม่ติดไฟ ไม่กัดกร่อน ไม่ทำพิษ ไม่มีความดันที่สูงมากเกินไป ไม่ทำปฏกิริยากับน้ำมันในคอมเพรสเซอร์ รวมถึงการติดตั้งระบบให้เหมาะสมไม่ให้เกิดการรั่วไหลของสารทำความเย็น และอีกแนวทางหนึ่งที่ทำให้ระบบทำความเย็นมีประสิทธิภาพคือการล้างทำความสะอาดท่อหรือระบบเดินสารเคมีให้สะอาดไม่ให้เหลือสิ่งตกค้างหรือสิ่งปนเปื้อน ประเภทของน้ำยาแอร์ที่ใช้มี 2 แบบ ดังนี้
1.น้ำยาล้างคอยล์
จะเป็นน้ำยาที่สามารถช่วยขจัดคราบไขมันได้เป็นอย่างดีถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งสกปรกและฝุ่น สามารถทำความสะอาดได้ดีแม้อยู่ตามซอกภายในแผงคอยด์ อย่างไรก็ตามน้ำยาล้างคอยล์ประกอบไปด้วยสารกัดกร่อน ทำให้หากใช้บ่อย ๆ จะทำให้กัดกร่อนส่วนต่าง ๆ ของคอยล์เย็น และโลหะต่าง ๆ ส่วนมากจึงถูกใช้งานโดยช่างแอร์ผู้เชี่ยวชาญเป็นหลัก
2. น้ำยาล้างแอร์ชนิดโฟมทำความสะอาด
เป็นน้ำยาแอร์ที่เราสามารถใช้งานเองได้โดยไม่ต้องจ้างช่างมาทำ สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป เพียงฉีดน้ำยาโฟมไปบนแผงคอยด์ เมื่อเทียบกับการให้ช่างล้างให้ วิธีนี้การทำความสะอาดอาจจะยังไม่มากพอ เพียงช่วยให้กลิ่นอับจากแอร์หายไปและอากาศสดชื่นเท่านั้น [2]
HCFC-141b หรือไดคลอโรฟลูออโรมีเทน (Dichlorofluoromethane) นิยมกันมากในการล้างทำความสะอาดระบบทำความเย็น และใช้ในการขจัดคราบไขมันได้เป็นอย่างดี เป็นสารทำความแย็นที่นำมาใช้ทดแทน R-11 ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ดีโดยมีคุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีที่ใกล้เคียงกับ R-11 แต่ด้วยศักยภาพการทำลายชั้นโอโซนรวมถึงไดคลอโรฟลูออโรมีเทนเป็นสารประเภทไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน จึงทำให้มีการจัดประเภทนี้อยู่ในสารทำลายชั้นโอโซนกลุ่มที่ 2 ที่ลงความเห็นโดยมอนทีออล (Montreal) [3] จึงมีประกาศยกเลิกการใช้ในประเทศไทยแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมโฟม และได้มีการผลักดันให้หันมาใช้สารทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า ได้แก่ ไฮโดรฟลูออโรอีเทอร์ (Hydrofluoro ethers, HFEs) และไฮโดรฟลูออโรโอเลฟิน (Hydrofluoro olefins, HFOs)
Inventec Neo B2 เป็นสารทดแทน HCFC-141b ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเกิดจากการใช้ HFO เข้ามาผสมในผลิตภัณฑ์ซึ่งสามารถปรับปรุงการไม่ติดไฟ นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติที่เหมือนกันกับ HCFC-141b จึงทำให้สามารถใช้ทดแทนกันได้ในกระบวนการผลิตโฟมและการหล่อเย็น รวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเมื่อดูจากค่า LC50 ค่าความเข้มข้นสูงสุดที่สามารถหายใจเข้าไปได้ถึง 120000 ppm ภายในระยะเวลา 4 ชั่วโมง ที่มีค่ามากกว่า HCFC-141b รวมถึง GWP และ ODP ที่ต่ำกว่ากว่าอีกด้วย หากค่านี้มีค่าน้อยก็จะทำให้ส่งผลต่อการทำให้โลกร้อนและการทำลายชั้นโอโซนน้อยลงตามลำดับ ดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 คุณสมบัติระหว่าง HCFC-141b และ Inventec Neo B2 [4, 5]


Organic Wealth (Thailand) Co ., Ltd.
Tel/Fax : +66 (0) 2-183-8709
Line ID : @owt123
อ้างอิง
[1] https://carrierthailand.com/carrier-article/signs-coil-air-conditioner/. Access 19 Jan 2024.
[2] https://carrierthailand.com/carrier-article/type-of-air-cleaner/. Access 19 Jan 2024.
[3] https://www.epa.gov/ozone-layer-protection/ozone-depleting-substances. Access 17 Jan 2024.
[4] https://hkw1615e5-pic43.websiteonline.cn/upload/HCFC141bMSDS.pdf. Access 17 Jan 2024.
[5] https://www.inventec.dehon.com/wp-content/uploads/2023/06/PDS-Promosolv-NEO-B2-EN.pdf. Access 17 Jan 2024.
Comments